FBS ก้าวเข้าสู่ปีที่ 16

ปลดล็อกของรางวัลวันเกิด: ตั้งแต่แก็ดเจ็ตและรถในฝันไปจนถึงทริป VIPเรียนรู้เพิ่มเติม
เปิดบัญชี
เปิดบัญชีล็อกอิน
เปิดบัญชี

14 ต.ค. 2024

พื้นฐาน

ตลาดฟอเร็กซ์คืออะไรและมันทำงานอย่างไร?

1200х675-6.png

อยากรู้จักตลาดฟอเร็กซ์มากขึ้นไหม? สงสัยไหมว่ามันทำงานอย่างไร และจะทำเงินจากการเทรดสกุลเงินได้อย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียของการเทรด ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และกลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการเพิ่มพูนความมั่งคั่งของคุณ เริ่มออกเดินทางสู่การเทรดของคุณเลยดีกว่า!

ตลาดฟอเร็กซ์คืออะไร?

ฟอเร็กซ์ (หรือเรียกสั้น ๆ ว่า FX) คือคำย่อของตลาดฟอเร็กซ์ สกุลเงินของโลกมีความผันผวน และอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินต่าง ๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์จะใช้การเคลื่อนไหวของราคาเหล่านี้เพื่อทำกำไรโดยการขายสกุลเงินหนึ่งและซื้ออีกสกุลเงินหนึ่งตามจังหวะของกลยุทธ์

สถิติล่าสุดแสดงให้เห็นว่าตลาดฟอเร็กซ์กำลังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ในปี 2023 ตลาดนี้ได้มีมูลค่าสูงเป็นประวัติการณ์ที่ $805 พันล้าน ผู้เชี่ยวชาญของ IMARC Group คาดการณ์ว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นเป็น $1.5 พันล้าน ภายในปี 2031

ตลาดฟอเร็กซ์ยังคงเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องมาจากแนวโน้มดังต่อไปนี้:

  • ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การเทรดแบบอัลกอริธึม

  • การพัฒนากฎระเบียบที่ทำให้ตลาดมีความโปร่งใสมากขึ้น

  • การเพิ่มขึ้นของการมีส่วนร่วมของเทรดเดอร์รายย่อย

ไปที่ FBS Academy เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน

ฟอเร็กซ์คืออะไร ช่วยอธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ ได้ไหม?

ฟอเร็กซ์เป็นตลาดออนไลน์ที่เทรดเดอร์แลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งไปเป็นอีกสกุลเงินหนึ่งตามอัตราแลกเปลี่ยนที่กำหนดโดยผู้เข้าร่วมนอกตลาดรายใหญ่ที่สุดในโลก ตลาดมีสภาพคล่องสูงและเป็นสากลจึงไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตลาดหลักทรัพย์ใดเป็นพิเศษ

การซื้อขายสกุลเงินออนไลน์นั้นเร็วกว่าและคุ้มค่ามากกว่าการใช้บริการแลกเปลี่ยนในท้องถิ่น ในเวลาเดียวกัน จำนวนเงินที่เกี่ยวข้องก็มีปริมาณมหาศาลกว่ามาก นั่นเป็นเหตุผลที่ตลาดฟอเร็กซ์มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในโลก ในความเป็นจริง ปริมาณการซื้อขายฟอเร็กซ์รายวันนั้นมากกว่ามูลค่าโดยรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกหรือตลาดโลหะมีค่า เช่น ทองคำ

ไปดูความหมายของคำนี้กันเถอะ:

Forex (ฟอเร็กซ์) ย่อมาจาก foreign exchange ซึ่งหมายถึงการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ตลาดนี้ช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นซื้อขายเงินตราต่างประเทศได้ภายในไม่กี่วินาที เนื่องจากมันเปิดดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ และมีปริมาณการซื้อขายจำนวนมหาศาล ความผันผวนของสกุลเงินนั้นมีขนาดเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับตลาดหุ้น คุณลักษณะเหล่านี้ทำให้โบรกเกอร์สามารถนำเสนอการซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้นให้กับลูกค้าได้ นี่หมายความว่า คุณสามารถเปิดสถานะที่ใหญ่กว่าความสามารถทางการเงินปัจจุบันของคุณมาก ๆ ได้ ในการสิ่งนี้ โบรกเกอร์ เช่น FBS จึงมีเลเวอเรจให้คุณได้ใช้

ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดสกุลเงินทั่วโลกที่มีปริมาณการซื้อขายและรายได้ที่ใหญ่ที่สุด โดยมีการเก็งกำไรจากความแตกต่างของราคาระหว่างคู่สกุลเงินต่าง ๆ ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เทรดเดอร์สามารถทำกำไรได้ทั้งจากการปรับตัวขึ้นและปรับตัวลงของสกุลเงิน

ฟอเร็กซ์ทำงานอย่างไร

สิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์ต้องจำไว้ในตอนที่ซื้อขายฟอเร็กซ์คือราคาสกุลเงินนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น ขณะนี้สกุลเงินยูโรมีมูลค่า 1.7 ดอลลาร์ แต่ในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า อาจลดลงเหลือ 1.69 ดอลลาร์

ค่าของสกุลเงินหนึ่งที่ได้แสดงเป็นอีกสกุลเงินหนึ่งนั้นเรียกว่าราคา แต่ละราคาจะปรากฏบนกราฟในแพลตฟอร์มการซื้อขายและทำเครื่องหมายจุดไว้ จุดนี้จะเชื่อมต่อกับระดับราคาก่อนหน้าโดยอัตโนมัติและสร้างกราฟราคาแบบเรียลไทม์ เทรดเดอร์ทำแค่เพียงนั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์หรือสมาร์ตโฟนของตน แล้วเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของกราฟเพื่อหาจังหวะที่ดีที่สุดในการซื้อขาย

เราได้กล่าวไปแล้วว่าโซลูชันที่ทันสมัยแบบทั่วไปในตอนที่เทรดฟอเร็กซ์ก็คือเลเวอเรจ นี่หมายความว่าเมื่อคุณเปิดคำสั่งซื้อขาย โบรกเกอร์จะเพิ่มเงินของตนลงไปในการลงทุนของคุณ ขนาดเลเวอเรจอาจแตกต่างกันได้ตั้งแต่ 1:1 (ที่คุณซื้อขายโดยใช้เงินของคุณเองเท่านั้น) ไปจนถึง 1:500 (ที่สำหรับทุก ๆ ดอลลาร์ที่คุณใส่เข้าไป โบรกเกอร์จะเพิ่มให้อีก 500)

สิ่งนี้หมายความว่าด้วยเงินทุนที่ค่อนข้างน้อยที่เริ่มต้นเพียง 100 ดอลลาร์ คุณจะสามารถเข้าสู่ตลาดฟอเร็กซ์ระดับโลกและซื้อขายได้ดุจมีเงินเริ่มต้นถึง 10,000 ดอลลาร์

ตลาดฟอเร็กซ์ทำงานอย่างไร?

เทรดเดอร์จะซื้อสกุลเงินที่ราคาหนึ่ง แล้วขายในราคาที่สูงกว่าเพื่อให้ได้กำไร ง่ายขนาดนั้นเชียว?

ตลาดฟอเร็กซ์นั้นแตกต่างจากตลาดประเภทอื่น ๆ เช่น ตลาดหุ้น ที่ตั้งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จริงอย่างเช่นตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ตลาดฟอเร็กซ์เป็นระบบกระจายอำนาจ และการซื้อขายทั้งหมดจะเกิดขึ้นผ่านเครือข่ายโบรกเกอร์-ดีลเลอร์ ผู้ซื้อและผู้ขายฟอเร็กซ์มักจะซื้อขายกันผ่านเคาน์เตอร์ (OTC) ซึ่งโดยปกติจะทำการซื้อขายโดยตรงผ่านธนาคาร โบรกเกอร์ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์

1200х675.png
อัตราเงินเฟ้อในประเทศต่าง ๆ (ที่มา: tradingeconomics.com)

มีหลายปัจจัยหลายที่ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน และสิ่งที่สำคัญที่สุด มีดังต่อไปนี้

  1. สมมติว่าธนาคารกลางของประเทศหนึ่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยทั่วไปสกุลเงินของธนาคารกลางดังกล่าวมักจะแข็งค่าขึ้น เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงขึ้นจะดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น (และในทำนองกลับกัน)

  2. สถานการณ์เศรษฐกิจ เช่น การว่างงาน อัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ล้วนส่งผลต่อมูลค่าของสกุลเงินเสมอ โดยทั่วไปแล้ว การเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจะทำให้สกุลเงินของประเทศมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และในทำนองกลับกัน

  3. สถานการณ์ทางการเมืองก็เป็นปัจจัยที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ในช่วงเวลาที่มีความไม่มั่นคงทางการเมืองหรือความขัดแย้งทางทหาร มูลค่าของสกุลเงินอาจลดลงได้

  4. แต่ไม่ใช่ทุกปัจจัยที่จะอยู่ในระดับระดับโลก นอกเหนือจากผลกระทบที่เหตุการณ์ต่าง ๆ ทั่วโลกอาจมีต่ออัตราแลกเปลี่ยนแล้ว อารมณ์ของผู้คนก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ปัจจัยที่เรียกว่า ความเชื่อมั่นตลาด จะวัดว่าเทรดเดอร์รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับอนาคตของสกุลเงิน หากพวกเขามองในแง่ดี ตัวบ่งชี้นอาจผลักดันให้มูลค่าของสกุลเงินสูงขึ้นได้

ใครบ้างที่ซื้อขายสกุลเงิน?

ทุกวันนี้ ใคร ๆ ก็สามารถซื้อขายสกุลเงินได้ คุณเองก็อาจเคยทำไปแล้วด้วยซ้ำ เช่น ในตอนที่คุณเดินทางไปต่างประเทศ แล้วคุณต้องการซื้อหรือขายสิ่งต่าง ๆ ด้วยสกุลเงินท้องถิ่น พูดง่าย ๆ ว่าการแลกเปลี่ยนเงินตราก็คือฟอเร็กซ์ เมื่อบริษัทซื้อหรือขายให้กับคู่ค้าต่างประเทศ พวกเขาจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่าง ๆ ทุกวันเพื่อให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จ

แล้วใครคือผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดฟอเร็กซ์?

  • ธนาคารขนาดใหญ่ เป็นส่วนสำคัญของตลาดฟอเร็กซ์ พวกเขาจะซื้อขายสกุลเงินให้กับตนเอง และทำแทนลูกค้าซึ่งรวมไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่และรัฐบาล

  • ธนาคารกลาง ก็มีส่วนร่วมในการซื้อขายสกุลเงินด้วย สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการอัตราแลกเปลี่ยน และรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศของพวกเขา

  • รัฐบาล ก็อาจมีส่วนร่วมในตลาดฟอเร็กซ์เพื่อเป็นวิธีในการจัดการสำรองเงินตราต่างประเทศหรือเพื่อส่งผลกระทบต่อมูลค่าสกุลเงินของประเทศของตน

  • บริษัทใหญ่ ๆ ที่ทำธุรกิจค้าขายระหว่างประเทศมักจะต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินทุกวันเพื่อให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จ

  • บริษัทการเงินขนาดใหญ่ เช่น กองทุนป้องกันความเสี่ยงหรือกองทุนรวมที่การซื้อขายสกุลเงินเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุน พวกเขาทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงในอัตราแลกเปลี่ยน

บางคนก็ซื้อขายเพื่อหาเลี้ยงชีพ พวกเขาสามารถทำงานให้กับลูกค้ารายย่อย ให้กับองค์กรทางการเงินอย่างกองทุนป้องกันความเสี่ยง หรือทำงานให้ตัวเอง นักลงทุนรายย่อยมักจะใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการซื้อขายสกุลเงิน

เทรดเดอร์ฟอเร็กซ์คือผู้ที่คุ้นเคยกับการทำงานกับข้อมูลจำนวนมหาศาล นักลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จควรสามารถทำงานกับหลายตัวบ่งชี้ที่แตกต่างกันและทำการการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนได้

ในอดีต มีเพียงบริษัทขนาดใหญ่เท่านั้นที่สามารถซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์ได้ แต่ในปัจจุบัน ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ รวมถึงคุณด้วย

ยังใหม่กับตลาดฟอเร็กซ์ใช่ไหม? เริ่มต้นกับ FBS ดูสิ

ประเภทของคู่สกุลเงิน

1200х675-2.png
กราฟ EURUSD (ที่มา: www.forexfactory.com)

หากต้องการทำเงินจากการเทรดฟอเร็กซ์ คุณต้องมีคู่สกุลเงิน

สกุลเงินต่าง ๆ มักจะมีชื่อเฉพาะที่เป็นสามตัวอักษร เช่น JPY ซึ่งก็คือเยนญี่ปุ่น สองตัวอักษรแรกจะแทนชื่อประเทศ (ญี่ปุ่น) และตัวอักษรสุดท้ายจะแทนชื่อสกุลเงิน (เยน) ชื่อสามตัวอักษรเหล่านี้จะถูกเรียกว่ารหัสสกุลเงิน ISO 4217 ชื่อสกุลเงินดังกล่าวไม่เพียงแต่ถูกใช้ในการซื้อขายเท่านั้น แต่ยังถูกนำไปใช้กับตั๋วเครื่องบินหรือรถไฟอีกด้วย ตัวอย่างเช่น

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์จะถูกเขียนแบบนี้: GBPUSD (หรือ GBP/USD) สกุลเงินแรกในคู่สกุลเงินคือสกุลเงินฐาน หรือสกุลเงินที่ถูกขาย ส่วนสกุลเงินที่สองคือสกุลเงินอ้างอิง หรือสกุลเงินที่ใช้ในการชำระค่าสกุลเงินฐาน เป้าหมายของการเทรดฟอเร็กซ์คือการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน — ราคาในสกุลเงินอ้างอิงของหน่วยสกุลเงินฐาน

ประเภทของคู่สกุลเงิน

ประเภทของคู่สกุลเงินมีอะไรบ้าง? มีดังต่อไปนี้

  • หลัก

  • รอง

  • เกิดใหม่

  • สามเหลี่ยม

  • คู่สินค้าโภคภัณฑ์

คู่สกุลเงินหลักและรอง

คู่สกุลเงินหลักได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด คู่สกุลเงินประเภทนี้จะถูกซื้อขายอยู่บ่อยครั้งและรวมถึงสกุลเงินต่าง ๆ ที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในโลก โปรดทราบว่าคู่เงินหลักจะมี USD อยู่ในคู่ด้วย คู่สกุลเงินเหล่านี้จะมีสภาพคล่องสูง สเปรดแคบ และความผันผวนต่ำกว่า ซึ่งแตกต่างจากคู่สกุลเงินรอง คู่สกุลเงินหลักทั่วไปมีดังนี้:

  • EURUSD: ยูโรเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

  • USDJPY: ดอลลาร์สหรัฐเทียบกับเยนญี่ปุ่น

  • GBPUSD: ปอนด์อังกฤษเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

  • USDCHF: ดอลลาร์สหรัฐเทียบกับฟรังก์สวิส

  • AUDUSD: ดอลลาร์ออสเตรเลียเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

  • USDCAD: ดอลลาร์สหรัฐเทียบกับดอลลาร์แคนาดา

  • NZDUSD: ดอลลาร์นิวซีแลนด์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนคู่สกุลเงินรองจะไม่รวม USD เอาไว้ในคู่ คู่สกุลเงินประเภทนี้ยังถูกเรียกว่า "คู่สกุลเงินข้าม" มันมีสภาพคล่องน้อยกว่า ดังนั้นจึงมีสเปรดกว้างกว่าและความผันผวนสูงกว่า คู่รองทั่วไปบางส่วน ได้แก่

  • EURGBP: ยูโรเทียบกับปอนด์อังกฤษ

  • EURJPY: ยูโรเทียบกับเยนญี่ปุ่น

  • GBPJPY: ปอนด์อังกฤษเทียบกับเยนญี่ปุ่น

  • AUDNZD: ดอลลาร์ออสเตรเลียเทียบกับดอลลาร์นิวซีแลนด์

  • EURAUD: ยูโรเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย

คู่เงินยอดนิยมบางคู่ก็มีชื่อเล่นที่เรียกกันในตลาด FX ตัวอย่างเช่น EURUSD ถูกเรียกว่าไฟเบอร์, AUDUSD ถูกเรียกว่าออสซี่, USDJPY ถูกเรียกว่าโกเฟอร์ และ GBPUSD ถูกเรียกว่าเคเบิล การเรียนรู้ศัพท์แสลงในตลาดฟอเร็กซ์ถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ แต่ก็ควรระมัดระวังก่อนที่จะเริ่มใช้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและความสับสน

ไม่แน่ใจว่าจะซื้อขายคู่ใดก่อนดีงั้นเหรอ? ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับคู่สกุลเงินที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่มีในบทความ FBS นี้

คู่สกุลเงินเกิดใหม่และประเภทอื่น ๆ

คู่สกุลเงินเกิดใหม่ คือคู่ที่สกุลเงินหลักจับคู่กับสกุลเงินของเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือเศรษฐกิจขนาดเล็ก โดยปกติแล้วคู่สกุลเงินเหล่านี้จะมีสภาพคล่องน้อยกว่าและมีความผันผวนมากกว่า และสเปรดจะกว้างกว่าเมื่อเทียบกับคู่สกุลเงินหลักและคู่สกุลเงินรอง ความไม่มั่นคงทางการเมืองและเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจล้วนส่งผลกระทบต่อคู่สกุลเงินเกิดใหม่ นอกจากนี้ คู่สกุลเงินเกิดใหม่มักจะมีปริมาณการซื้อขายต่ำกว่าด้วย

คู่สามเหลี่ยม เกี่ยวข้องกับสามสกุลเงินที่แตกต่างกัน คู่สินค้าโภคภัณฑ์ ประกอบด้วยสกุลเงินจากประเทศผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ มูลค่าของมันมักจะเปลี่ยนแปลงไปตามราคาของสินค้าโภคภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น AUDUSD ดอลลาร์ออสเตรเลียไม่ได้เชื่อมโยงแค่กับดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับทองคำอีกด้วย

การซื้อขายคู่สกุลเงินสามเหลี่ยมหรือสินค้าโภคภัณฑ์มีความซับซ้อนมากกว่า แถมยังต้องมีประสบการณ์ที่มากพอ

วิธีการเริ่มเทรดฟอเร็กซ์

อภิธานศัพท์สำหรับมือใหม่

ก่อนที่จะเข้าสู่โลกแห่งการซื้อขายสกุลเงิน คุณควรทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์ทั่วไปบางคำที่คุณต้องรู้เสียก่อน สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มและตลาดได้ดีขึ้น

  • อัตราแลกเปลี่ยน คือราคาของหน่วยสกุลเงินหนึ่งในอีกสกุลเงินหนึ่ง มันอาจมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถูกกำหนดโดยตลาด หรือคงที่ — ถูกกำหนดโดยธนาคารกลางและไม่เปลี่ยนแปลง

  • Pip ย่อมาจาก Percentage in points (เปอร์เซ็นต์ในจุด) มันคือหนึ่งส่วนหนึ่งร้อยของ 1% และปรากฏเป็นตำแหน่งทศนิยมที่สี่ (0.0001) การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนจะถูกวัดเป็น pips ตัวอย่างเช่น หาก USD/CAD เคลื่อนตัวจาก 1.1050 ไปยัง 1.1051 นั่นคือการเปลี่ยนแปลง 1 pip

  • มาร์จิ้น คือจำนวนเงินที่คุณต้องใส่ในบัญชีเพื่อเปิดคำสั่งซื้อขายโดยใช้เลเวอเรจ

  • เลเวอเรจ — หากคุณไม่มีเงินฝากมากนัก เลเวอเรจสามารถช่วยคุณได้ เลเวอเรจคือเงินที่ยืมมาจากโบรกเกอร์ นั่นหมายความว่า คุณสามารถซื้อขายด้วยเงินมากกว่าที่คุณมีจริง ๆ ได้ถึง 50 เท่า มันเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าอย่างยิ่งแต่ก็มีความเสี่ยงที่สูงมากเช่นกัน

  • ราคา Bid คือราคาซื้อ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดที่ผู้ซื้อสามารถจ่ายได้

  • ราคา Ask คือราคาต่ำสุดที่ผู้ขายรับได้ — ราคาขาย

  • สเปรด คือส่วนต่างระหว่างสองราคาก่อนหน้า: ราคา Bid และราคา Ask ตัวอย่างเช่น ถ้าราคา Bid เท่ากับ $40 และราคา Ask เท่ากับ $43 เช่นนั้นสเปรดจะเท่ากับ $3

  • แนวรับ คือระดับราคาที่ผู้ซื้อขายมีแนวโน้มที่จะเข้าซื้อ โดยปกติแล้วราคาจะไมปรับตัวลงต่อหลังจากที่แตะถึงระดับนี้ในแนวโน้มขาลง

  • แนวต้าน คือสิ่งตรงข้ามกับแนวรับ ราคาอาจปรับตัวลงที่ระดับนี้

  • Slippage (ช่องว่าง) — บางครั้งจะมีช่องว่างระหว่างช่วงเวลาที่นักลงทุนวางคำสั่งซื้อขายไปจนถึงช่วงเวลาที่คำสั่งซื้อขายเกิดขึ้นจริง ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในช่องว่างนี้ — ซึ่งนี่คือ slippage

  • คำสั่ง stop-loss จะปิดคำสั่งซื้อขายโดยอัตโนมัติเมื่อหลักทรัพย์ไปถึงราคาที่กำหนด นี่เป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่มีประโยชนที่สามารถช่วยคุณจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้

  • Trailing stop คือรูปแบบหนึ่งของคำสั่ง stop-loss: เมื่อราคาปรับตัวขึ้น คำสั่ง stop ก็จะปรับตัวขึ้นตามไปด้วย แต่หากราคาปรับตัวลงถึงจุดหนึ่ง มันก็จะปิดคำสั่งซื้อขายเพื่อปกป้องผลกำไรของคุณ

  • คำสั่ง take-profit จะทำงานในลักษณะตรงกันข้ามกับคำสั่ง stop-loss หลังจากที่กำหนดราคา take-profit แล้ว เมื่อสกุลเงินไปถึงราคาดังกล่าวในแนวโน้มขาขึ้น คำสั่งซื้อขายก็จะถูกปิดโดยอัตโนมัติ

  • Bollinger bands แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของราคา หากราคาอยู่ใกลเส้นแถบ นั่นหมายความว่าราคาถูกซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป สิ่งนี้มีประโยชน์มากในตอนที่เทรดเดอร์พยายามคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคา

  • Moving averages เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ที่ช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจแนวโน้มของราคา

  • Relative Strength Index (RSI) สามารถระบุว่าสกุลเงินนั้นถูกซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไปได้เช่นกัน

ก้าวแรกสู่การเทรดฟอเร็กซ์

  1. เรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่คุณทำได้ ลองเข้าไปดู FBS Academy และ อภิธานศัพท์ FBS: เรียนรู้หลักการต่าง ๆ ในการซื้อขายสกุลเงินและคำศัพท์ FX หลัก ๆ มันจะทำให้คุณมีความมั่นใจมากขึ้นและช่วยปกป้องสินทรัพย์ของคุณ

  2. ทำการวิจัยตลาด ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน ศึกษากราฟ และอ่านรายงานการวิเคราะห์

  3. พัฒนากลยุทธ์การซื้อขายให้ดีที่สุด กำหนดจุดเข้าและจุดออก เงินทุนที่ใช้เสี่ยง คำสั่งตัด stop-loss และ take-profit สูงสุดที่ต้องการ มาร์จิ้นและเลเวอเรจ

  4. เริ่มใช้บัญชีทดลองที่ FBS: เพิ่มพูนประสบการณ์ในวิธีที่ปลอดภัยได้ด้วยเงินเสมือนจริง

เปิดบัญชีทดลองที่ FBS และเริ่มทำเงินตอนนี้

ประเภทของตลาด

ตลาดฟอเร็กซ์ประกอบด้วยสามสิ่ง:

แต่ละตลาดจะมีคุณสมบัติเฉพาะของตัวเอง และอนุญาตให้เทรดเดอร์สามารถซื้อขายสกุลเงิน เก็งกำไร และป้องกันความเสี่ยงในวิธีต่าง ๆ

ตลาดสปอต

ตลาดสปอต หรือ FX สปอต คือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินในราคาสปอต (เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าราคาปัจจุบัน) โดยจะมีการส่งมอบทันที แต่สินทรัพย์บางรายการก็จะระบุราคาฟิวเจอร์สหรือราคาฟอร์เวิร์ดด้วย ตลาดนี้เป็นตลาดฟอเร็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดและพบเห็นได้มากที่สุดในโลก

คุณสามารถทำการซื้อขาย:

  • สกุลเงินและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน

  • สินค้าโภคภัณฑ์ (เช่น โลหะ พลังงาน ฯลฯ)

  • หลักทรัพย์

  • ตั๋วเงินคลังและพันธบัตร

ตลาดสปอตดึงดูดใจเทรดเดอร์ได้เนื่องจากตลาดนี้มีการซื้อขายที่คึกคักและมีสภาพคล่องสูง ส่งมอบได้ทันที และให้ราคาแบบเรียลไทม์แก่เทรดเดอร์ บ่อยครั้งที่สเปรดจะเล็กกว่า ดังนั้นมันจึงมีต้นทุนน้อยกว่าในการเปิดสถานะ มีคู่สกุลเงินมากกว่า 80 คู่ให้เทรดเดอร์ได้เลือกเทรด

ตลาดสปอตก็มีข้อเสียเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ตลาดนี้ไม่เหมาะกับการป้องกันความเสี่ยงมากนัก และมีค่าธรรมเนียมโยกสถานะข้ามคืนเพื่อรักษาสถานะของคุณให้เปิดอยู่จนถึงวันถัดไป นอกจากนี้ ตลาดนี้ก็มีความเสี่ยงไม่ต่างจากตลาดอื่น ๆ คุณอาจสูญเสียมากกว่าที่คุณฝากเนื่องจากมาร์จิ้นได้

ตลาดฟอร์เวิร์ดและฟิวเจอร์ส

เมื่อผู้ซื้อและผู้ขายลงนามในสัญญาฟอร์เวิร์ด พวกเขาจะตกลงที่จะแลกเปลี่ยนสกุลเงินในอนาคตด้วยราคาที่ตกลงกันในปัจจุบัน สัญญาเหล่านี้มักจะมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่าและสามารถปรับแต่งได้ สัญญาฟอร์เวิร์ดเป็นที่นิยมในการป้องกันความเสี่ยง เนื่องจากมันสามารถช่วยลดความผันผวนของราคาได้ โดยปกติแล้ว รายละเอียดของสัญญาจะถูกเก็บไว้ระหว่างคู่สัญญา

ตลาดฟิวเจอร์สเกี่ยวข้องกับการซื้อและการขายในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โดยจะชำระในวันในอนาคตตามที่ระบุ ดังนั้นเทรดเดอร์จะสามารถเข้าไปเดิมพันว่าราคาจะขึ้นหรือลงได้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงรายวันในตลาดจะสะท้อนอยู่ในสัญญา

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างสัญญาฟอร์เวิร์ดและสัญญาฟิวเจอร์สจะแสดงอยู่ในตารางด้านล่างนี้

ฟอร์เวิร์ด

ฟิวเจอร์ส

วิธีการเทรด

OTC (over-the-counter )

บนตลาดหลักทรัพย์ที่จดทะเบียน

การชำระค่าใช้จ่าย

ไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า

ต้องจ่ายด้วยมาร์จิ้น

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

สามารถปรับเปลี่ยนได้

มาตรฐาน

ความเสี่ยง

สูงกว่า

ต่ำกว่า

เทรดฟอเร็กซ์อย่างไรดี

เวลาที่ดีที่สุดในการเทรด: ช่วงเวลาตลาดฟอเร็กซ์

แม้ตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินเปิดทำการทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดจะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีช่วงเวลาตลาดหลักสี่ช่วงเวลาที่ได้รับการตั้งชื่อตามศูนย์กลางการเงินหลัก ๆ:

  1. ช่วงเวลาตลาดซิดนีย์ (22.00 – 07.00 น. GMT): การซื้อขายค่อนข้างสงบและมีความผันผวนต่ำ แม้ว่าจะมีการแลกเปลี่ยน AUD, NZD และ JPY อย่างคึกคักก็ตาม

  2. ช่วงเวลาตลาดโตเกียว (00.00 – 09.00 น. GMT) จะเชื่อมโยงกับตลาดต่าง ๆ ในเอเชีย นักลงทุนซื้อขายคู่สกุลเงินต่าง ๆ รวมไปถึงสกุลเงินเยนญี่ปุ่นที่คึกคักที่สุดในช่วงนี้

  3. ช่วงเวลาตลาดลอนดอน (08.00 – 05.00 น. GMT) จะเป็นช่วงเวลาที่มีสภาพคล่องสูง ลอนดอนเป็นศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญของโลก ดังนั้นช่วงเวลาตลาดนี้จึงเป็นส่วนสำคัญของตลาดโลก สกุลเงินที่ถูกซื้อขายมากที่สุดคือปอนด์อังกฤษ ยูโร และฟรังก์สวิส

  4. ช่วงเวลาตลาดนิวยอร์ก (13.00 – 22.00 น. GMT) มีความเคลื่อนไหวสูงมากเทียบเท่าช่วงเวลาตลาดลอนดอน เหตุการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่สำคัญส่วนใหญ่ที่คุณได้ยินจากข่าว มักเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาตลาดนี้ เนื่องจากมันเป็นช่วงเวลาที่สกุลเงินสำรองหลักของโลกอย่าง USD มีความผันผวนสูง

ในการเลือกช่วงเวลาซื้อขาย ให้เลือกช่วงเวลาที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวมากที่สุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการเปิดและปิดสถานะเป็นจำนวนมาก มีปริมาณการซื้อขายสูง ในช่วงเวลาทำการเหล่านี้ สเปรดจะแคบลง และความเสี่ยงที่เกิด slippage ก็จะน้อยลงด้วย

แพลตฟอร์มการซื้อขาย:

MDP-5392_1200x675_4_TH.png
อินเทอร์เฟซ MetaTrader 5

ในตลาดฟอเร็กซ์ ทุกอย่างจะะเกิดขึ้นแบบออนไลน์ สิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องทำคือเลือก แพลตฟอร์มการซื้อขาย ที่สะดวกและเชื่อถือได้ — ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อส่งมอบข้อมูลที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ให้แก่เทรดเดอร์ แพลตฟอร์มการซื้อขายจะแสดงกราฟที่คุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของมูลค่าของสกุลเงินในช่วงเวลาต่าง ๆ และนำเสนอข้อมูลที่ช่วยคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาในอนาคต คุณสามารถวางคำสั่งซื้อขายประเภทต่าง ๆ และใช้การเทรดแบบอัลกอริธึมได้ มีหลากหลายเครื่องมือการจัดการความเสี่ยง นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถซื้อขายได้ขณะเดินทาง MetaTrader 4 และ 5 เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเป็นอย่างดีในปัจจุบัน

เทคนิคในการจัดการความเสี่ยง

ตลาดฟอเร็กซ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่อาจคาดเดาได้ การกำหนดกฎเกณฑ์ที่จะปกป้องเงินของคุณและป้องกันการสูญเสียถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

  • เตรียมแผนการซื้อขายที่ดี แผนจะทำให้คุณมีวินัยและมีแรงบันดาลใจ แผนดังกล่าวควรสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณและคำนึงถึงทุกสถานการณ์ที่สำคัญต่อคุณ

  • เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลอง ฝึกฝนและเรียนรู้โดยปราศจากความเสี่ยงก่อนเปิดคำสั่งซื้อขายจริง

  • ใช้การกำหนดขนาดสถานะ— จำนวนเงินในพอร์ตการลงทุนที่เทรดเดอร์ตั้งใจจะลงทุน

  • ใช้อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่เหมาะสม แบบที่พบมากที่สุดคือ 1:3 นั่นหมายความว่าทุก ๆ $1 ที่คุณใส่เข้าไปในคำสั่งซื้อขาย คุณพยายามทำกำไรให้ได้ $3

  • กระจายการลงทุนของคุณ อย่าใส่เงินทั้งหมดของคุณลงในคำสั่งซื้อขายเดียวหรือเพียงแค่คู่สกุลเงินเดียว แต่ให้แบ่งเงินออกเป็นหลาย ๆ คำสั่งซื้อขาย ด้วยวิธีนี้หากคุณขาดทุนจากคำสั่งซื้อขายหนึ่ง คุณก็จะไม่สูญเสียเงินทั้งหมดของคุณ

เปิดบัญชีทดลองที่ FBS และเริ่มทำเงินตอนนี้

ฟอเร็กซ์ถูกใช้ในการป้องกันความเสี่ยงอย่างไร?

การป้องกันความเสี่ยงเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่เทรดเดอร์รายย่อยและบริษัทต่าง ๆ ใช้ในการบริหารความเสี่ยง มันเป็นเหมือนแผนสำรองสำหรับเงินของคุณ เนื่องจากตลาดฟอเร็กซ์มีความผันผวนอย่างมาก พวกเขาจึงต้องการปกป้องความมั่งคั่งของตนจากการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากอัตราแลกเปลี่ยน

การป้องกันความเสี่ยงคืออะไร ช่วยพูดให้เข้าใจแบบง่าย ๆ ได้ไหม?

ตัวอย่างเช่น คุณคาดหวังว่าราคาสกุลเงินจะเพิ่มขึ้น แต่คุณก็ไม่มั่นใจ 100% เสียทีเดียว ดังนั้น เพื่อเป็นการปกป้องตัวเองหากราคาลดลง คุณจึงเดิมพันในทิศทางตรงกันข้าม ด้วยวิธีนี้ ถ้าแผนแรกของคุณไม่ประสบผลสำเร็จ แผนที่สองก็จะช่วยให้คุณไม่สูญเสียมากนัก อย่างไรก็ตาม การลดความเสี่ยงมักมาคู่กับการลดลงของกำไรที่คาดหวังเสมอ

บริษัท ผู้ส่งออกและนำเข้า นักลงทุน และบุคคลทั่วไปล้วนสามารถใช้การป้องกันความเสี่ยงในตลาดฟอเร็กซ์ได้

มีตราสารทางการเงินที่สามารถช่วยนักลงทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

  • สัญญาฟอร์เวิร์ด ช่วยในการช่วยรักษาอัตราแลกเปลี่ยน

  • สัญญาฟิวเจอร์ส ฟิวเจอร์สนั้นมีมาตรฐานซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง แต่มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าฟอร์เวิร์ด

  • ออปชั่นสกุลเงิน ผู้ถือออปชั่นสามารถ (แต่ไม่จำเป็นต้อง) ซื้อขาย FX ในอัตราที่ตกลงกันก่อนวันหมดอายุที่กำหนด สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นมากขึ้นแถมยังให้การปกป้องอีกด้วย

  • สัญญาสวอปสกุลเงิน สวอปคือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินกับอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายจะทำธุรกรรมย้อนกลับในภายหลัง สวอปมีประโยชน์เมื่อบริษัทต้องการบริหารความเสี่ยงด้านสกุลเงินในระยะยาว

ข้อดีและข้อเสียของการเทรดฟอเร็กซ์

1200х675-3.png

มาดูข้อดี ของการเทรดฟอเร็กซ์ ที่ทำให้การเทรดฟอเร็กซ์เป็นที่น่าดึงดูดใจของนักลงทุนทั่วโลกกันดีกว่า

  1. ตลาดฟอเร็กซ์เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ยกเว้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณสามารถเทรดได้เกือบทุกเวลาซึ่งสะดวกสำหรับผู้คนที่มีตารางเวลาที่แตกต่างกัน

  2. ตลาดฟอเร็กซ์มีสภาพคล่องสูง ตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ ปริมาณการซื้อขายในตลาด FX ต่อวันอยู่ที่ประมาณ $2.4 ล้านล้าน คุณสามารถซื้อและขายสกุลเงินได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ราคามักจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ตัวอย่างเช่น หากคุณซื้อขายคู่สกุลเงินหลักอย่างเช่น EURUSD การหาผู้ซื้อหรือผู้ขายให้ได้ทันทีนั้นเป็นเรื่องง่าย

  3. ในตลาดฟอเร็กซ์นั้นมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม (ค่าคอมมิชชันและค่านายหน้า) ที่ค่อนข้างต่ำกว่า เมื่อเทียบกับตลาดอื่น ๆ อย่างเช่น ตลาดหุ้น โบรกเกอร์ FX ส่วนใหญ่จะทำเงินจากค่าสเปรด ไม่ใช่จากค่าธรรมเนียม

  4. ด้วยเลเวอเรจ คุณสามารถวางเงินลงในคำสั่งซื้อขายมากกว่าที่คุณมีได้ ตัวอย่างเช่น ด้วยเลเวอเรจ 1:30 คุณสามารถใช้เงิน $3,000 ในขณะที่ลงทุนเงินของตัวเองเพียง $100 เท่านั้น สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มผลกำไรที่อาจเป็นไปได้ของคุณได้เป็นอย่างมากหากตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คุณต้องการ

  5. คุณสามารถทำกำไรได้ไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลงก็ตาม หากคุณคิดว่ามูลค่าของสกุลเงินจะเพิ่มขึ้น คุณก็สามารถเข้าซื้อมันได้ (เปิดสถานะ long) แต่ในทำนองกลับกัน หากคุณคาดว่าราคาจะลดลง คุณก็สามารถขายมันได้ (เปิดสถานะ short) สิ่งนี้ทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสเติบโตมากขึ้น เมื่อเทียบกับตลาดที่คุณสามารถทำกำไรได้เฉพาะในตอนที่ราคาเพิ่มขึ้นเท่านั้น

  6. ตลาด FX มีหลากหลายคู่เงินให้เลือกเทรด ด้วยคู่สกุลเงินหลักที่มีให้เลือกมากกว่า 25 คู่ คุณจึงมีความยืดหยุ่นสูงสุดและสามารถสลับจากคู่สกุลเงินหนึ่งไปยังอีกคู่สกุลเงินหนึ่งได้อย่างง่ายดายหากต้องการ

  7. แม้ว่าตลาดฟอเร็กซ์จะขึ้นชื่อในเรื่องของความผันผวน แต่นั่นก็อาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับคุณ หากคุณวางคำสั่งซื้อขายอย่างระมัดระวัง การเปลี่ยนแปลงราคาอย่างรวดเร็วก็จะเปิดโอกาสให้ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

  8. การเทรดฟอเร็กซ์สามารถเข้าถึงได้สำหรับผู้คนทุกระดับทักษะ มีตัวบ่งชี้ทางเทคนิคและกลยุทธ์การวิเคราะหจำนวนมากที่จะช่วยให้คุณเริ่มเทรดได้อย่างประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม ข้อดีก็มักจะมาพร้อมกับข้อเสียอยู่เสมอ และการเทรดฟอเร็กซ์ก็ไม่มีข้อยกเว้น

  1. การซื้อขายทุกประเภทมีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสีย สำหรับตัวอย่างในตลาดฟอเร็กซ์ การใช้เลเวอเรจสามารถช่วยเพิ่มผลกำไรได้เป็นอย่างมาก แต่ก็สามารถทำให้การสูญเสียเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณได้เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงราคาเพียงเล็กน้อยอาจนำไปสู่การสูญเสียในจำนวนมหาศาลได้ การมีกลยุทธ์ในการจัดการความเสี่ยงถือเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้คุณไม่สูญเสียเงินมากกว่าที่ลงทุนไป

  2. ความผันผวนสูงอาจเป็นศัตรูของคุณ: ราคาของสกุลเงินมักจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดและรวดเร็ว บางครั้งมันก็เป็นเรื่องยากที่เทรดเดอร์จะคาดเดาได้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก แม้แต่ข่าวเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็อาจทำให้ราคาเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นเทรดเดอร์ที่ไม่มีประสบการณ์ควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก

  3. ดังที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าตลาดฟอเร็กซ์เปิดทำการตลอด 24/5 ตลาดนี้ต้องการความเอาใจใส่และการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดได้ ส่งผลให้เทรดเดอร์อาจพลาดโอกาสต่าง ๆ เนื่องจากไม่ได้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างทันท่วงที

  4. ตลาดฟอเร็กซ์ต้องการความทุ่มเทเป็นอย่างมาก เทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรในตลาดควรมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์และปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดนี้ มันอาจทำให้คุณรู้สึกรับไม่ไหว โดยเฉพาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้น

  5. ตลาด FX ไม่ได้โปร่งใสเสียทีเดียว คุณอาจไม่เห็นรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับวิธีการเปิดคำสั่งซื้อขายของคุณ หรืออาจไม่ได้รับราคาที่ดีที่สุด คุณควรทำงานกับโบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลเพื่อให้เงินของคุณได้รับการคุ้มครอง

  6. เทรดเดอร์ FX ควรพึ่งพาตัวเองเท่านั้น ในตอนที่เรียนรู้กระบวนการนี้ ปกติแล้วก็จะไม่มีความช่วยเหลือใด ๆ เลย ความอดทนและความพากเพียรขณะเรียนรู้ด้วยตนเองจะนำคุณไปสู่เป้าหมาย

การซื้อขายเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัยกับ FBS ฝากเงินแล้วไปเทรดฟอเร็กซ์กันเลย!

กลโกงฟอเร็กซ์: ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้

1200х675-5.png

กลโกงฟอเร็กซ์ที่พบบ่อยที่สุดมีอะไรบ้าง?

ตลาดฟอเร็กซ์มีขนาดใหญ่ ทำให้ไม่เพียงแต่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์และมือใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นเป้าหมายของพวกมิจฉาชีพอีกด้วย เทรดเดอร์หลายพันรายต่างต้องทนทุกข์ทรมานจากการกระทำที่ผิดจริยธรรมของโบรกเกอร์ที่ไม่ซื่อสัตย์ในแต่ละปี โชคดีที่การทราบวิธีการแยกแยะพวกต้มตุ๋นออกจากโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงเหล่ามิจฉาชีพได้ ขั้นตอนแรกที่สำคัญคือการระบุการต้มตุ๋น กลโกงฟอเร็กซ์ส่วนใหญ่จะไม่มีความโปร่งใส มักมีการสัญญาว่าจะให้ผลกำไรสูงโดยมีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย รวมถึงการขายแบบก้าวร้าวและข้อเสนอที่ไม่ได้ร้องขอ

กลโกงฟอเร็กซ์ที่พบบ่อยที่สุดที่คุณควรระวัง มีดังต่อไปนี้

  1. ผู้ขายสัญญาณ สัญญาณคือข้อมูลบางอย่างที่โบรกเกอร์นำเสนอให้กับเทรดเดอร์ ข้อความแจ้งเตือนเหล่านี้ควรมีไว้เพื่อมอบข้อได้เปรียบให้กับเทรดเดอร์ และรักษาคำสั่งซื้อขายที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นโบรกเกอร์จึงเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับข้อมูลนี้ แต่จงระวัง เพราะข้อมูลบางอย่างสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าและเพิ่มโอกาสในการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จได้ แต่ไม่มีใครสามารถรับประกันคำสั่งซื้อขายที่ทำกำไรได้ นอกจากนี้ ผู้ขายสัญญาณมักจะผิดสัญญาทันทีที่ได้รับค่าธรรมเนียม

  2. โกงสเปรด โบรกเกอร์จะทำกำไรจากสเปรด และยิ่งสเปรดกว้างเท่าใด พวกเขาก็จะได้รับกำไรมากขึ้นเท่านั้น โบรกเกอร์ที่ไร้ความซื่อสัตย์จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับโปรแกรมที่แสดงราคา และขยายช่องว่างระหว่างราคา bid และราคา ask ปกป้องตนเองจากกลโกงนี้โดยสอบถามเรื่องสเปรดกับโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม บางครั้งก็อาจเกิด slippage ได้ คุณสามารถตั้งคำสั่ง stop-loss เพื่อป้องกันตนเองจากการสูญเสียในกรณีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

  3. โกงด้วยระบบอัตโนมัติ โบรกเกอร์บางรายจะนำเสนอบริการการซื้อขายแบบอัตโนมัติโดยใช้ซอฟต์แวร์เพื่อให้คุณสามารถซื้อขายได้แม้ในยามที่คุณไม่ได้ออนไลน์ อย่างไรก็ตาม วิธีการทำงานของโรบอตเหล่านี้ก็ไม่มีความชัดเจนเสมอไป เนื่องจากซอฟต์แวร์มีความซับซ้อน ให้ลองขอให้โบรกเกอร์อธิบายหลักการทำงานของมันให้คุณฟัง หากพวกเขาตอบแบบเลี่ยง ๆ หรือคลุมเครือ นั่นแสดงว่าการใช้โปรแกรมดังกล่าวอาจไม่ใช่ความคิดที่ดีเสียแล้ว

  4. การตลาดแบบหลายระดับ แชร์ลูกโซ่เหล่านี้จะใช้ตลาดฟอเร็กซ์เป็นเพียงแพลตฟอร์มในการรับสมัครสมาชิกใหม่และหลอกเอาเงินจากพวกเขา สัญญาณเตือนของแชร์ลูกโซ่หรือ MLM คือการมุ่งเน้นไปที่การสรรหาบุคลากร ไม่ใช่การซื้อขายจริง ๆ คำสัญญาในการเติบโตของผู้ที่มาต่อห่วงโซ่และกำไรที่ไม่สมจริง และการขาดความโปร่งใส

  5. แชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์ มันจะคล้าย ๆ กับบริษัท MLM ที่มุ่งเน้นไปการสรรหาคนเข้าสู่ชุมชนการลงทุนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ ผู้นำจะทำเงินจากค่าธรรมเนียมสมาชิกที่พวกเขาเรียกเก็บ อย่างไรก็ตาม อย่าสับสนระหว่างแชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์กับโซเชียลเทรดดิ้ง เนื่องจากโซเชียลเทรดดิ้งจะใช้โบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการกำกับดูแลอยู่เสมอ

  6. พวกแอบอ้างและบริษัทปลอม พวกเขาจะปลอมตัวเป็นโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์หรือสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียง สัญญาณเตือนคือการโทรติดต่อโดยตรง เว็บไซต์ปลอม และการขอชำระเงินล่วงหน้า โดยปกติแล้วพวกเขาจะมุ่งเป้าไปที่เทรดเดอร์มือใหม่หรือเทรดเดอร์ที่ไม่ใส่ใจ

  7. ไบนารีออปชัน ในทางเทคนิคแล้วมันไม่ใช่การต้มตุ๋น แต่ว่ามันมีความเสี่ยงสูงมาก เทรดเดอร์ต่างคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาของสินทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนด และจะได้รับเงินหากการคาดการณ์ถูกต้อง หรือสูญเสียเงินลงทุนหากการคาดการณ์ไม่ถูกต้อง มันคล้าย ๆ กับการพนัน ดังนั้นไบนารีออปชันจึงถูกห้ามในบางประเทศ ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเทรดเดอร์ไบนารีออปชั่นมากกว่า 85% ต่างสูญเสียเงินของพวกเขา

เคล็ดลับในการหลีกเลี่ยงกลโกงฟอเร็กซ์

ปกป้องเงินทุนของคุณในขณะที่ซื้อขายด้วยเคล็ดลับต่อไปนี้

  1. เลือกโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือซึ่งได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานด้านการเงิน โบรกเกอร์ที่ได้รับการกำกับดูแลจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่เข้มงวดเพื่อปกป้องเทรดเดอร์และรับประกันกิจกรรมการซื้อขายที่เป็นธรรม ในประเทศใหญ่ ๆ จะมีหน่วยงานกำกับดูแล คุณสามารถค้นคว้าได้จากเว็บไซต์ของพวกเขาและตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ของคุณได้รับการกำกับดูแลหรือไม่

  2. อย่าเชื่อคำสัญญาหรือการรับประกันผลกำไรจำนวนมหาศาลในช่วงเวลาสั้น ๆ ด้วยความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยและความพยายามเพียงเล็กน้อย การซื้อขายฟอเร็กซ์มีความเสี่ยง และไม่มีใครที่สามารถรับประกันผลกำไรได้ เว้นแต่คนพวกนั้นจะพยายามหลอกลวงคุณ

  3. ข้อเสนอเลเวอเรจสูงจากโบรกเกอร์ที่ไม่ได้รับการกำกับดูแลอาจฟังดูน่าสนใจ แต่โปรดระวัง อย่างที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ เลเวอเรจสูงก็ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียจำนวนมากได้เช่นกัน

วิธีการเลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้

เพื่อปกป้องการลงทุนของคุณและหลีกเลี่ยงการฉ้อโกง การเลือกโบรกเกอร์อย่างชาญฉลาดถือเป็นวิธีการที่เหมาะสม ให้คุณพยายามมองหาคุณลักษณะเหล่านี้

  1. ชื่อเสียงและกฎระเบียบ: โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงจะต้องจดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศของคุณ อย่าลังเลที่จะตรวจสอบ คุณสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้บนเว็บไซต์ของพวกเขา

  2. ความหลากหลายของประเภทบัญชีซึ่งมีคุณลักษณะที่แตกต่างกัน เช่น สเปรด เลเวอเรจ มาร์จิ้น คอมมิชชัน และเงื่อนไขการฝากเงิน

  3. มีหลากหลายคู่สกุลเงินให้เลือกซื้อขาย

  4. แพลตฟอร์มการซื้อขายที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ง่ายต่อการนำทางไปยังจุดหมายและง่ายต่อการใช้งานไม่เพียงแต่สำหรับการซื้อขายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการวิเคราะห์ด้วย

  5. การสนับสนุนลูกค้าที่เชื่อถือไดที่ทำให้ประสบการณ์การซื้อขายสะดวกสบายยิ่งขึ้นโดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนรายใหม่

ฉันโดนโกงมาแหละ ฉันควรทำอย่างไรดี?

ตกเป็นเหยื่อของการฉ้อโกงหรือเปล่า? ทำตามขั้นตอนง่าย ๆ ด้านล่างนี้

  1. ก่อนอื่น คุณควรดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อพยายามกู้คืนเงินลงทุนของคุณ จากนั้นให้หยุดการทำธุรกรรมทั้งหมดกับโบรกเกอร์ที่น่าสงสัยทันที อย่าฝากเงินเข้าบัญชีของคุณเพิ่มเติมอีก

  2. รวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโบรกเกอร์ที่ไร้จริยธรรม: รายละเอียดธุรกรรม อีเมล บันทึกการสนทนา และประวัติการซื้อขาย บันทึกกิจกรรมที่น่าสงสัยและข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดทั้งหมด

  3. แจ้งการหลอกลวงนี้ไปยังเจ้าหน้าที่ทันที ซึ่งอาจเป็นหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศของคุณและตำรวจ

  4. ติดต่อธนาคารของคุณเพื่อขอความช่วยเหลือ

  5. ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ที่คุณทำงานด้วยได้รับการกำกับดูแลหรือไม่ แม้ว่าจะโบรกเกอร์ดังกล่าวจะไม่ได้รับการกำกับดูแล ก็ให้รายงานต่อไปเพื่อช่วยให้หน่วยงานกำกับดูแลติดตามและป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมในอนาคต

  6. เตือนเทรดเดอร์รายอื่น ๆ เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการต้มตุ๋น: โพสต์บนโซเชียลมีเดียและฟอรั่มฟอเร็กซ์ มันอาจช่วยให้ผู้อื่นหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของแผนการฉ้อโกงแบบเดียวกันได้

  7. ที่ร้ายไปกว่านั้นคือมีการหลอกลวงการกู้คืนที่มุ่งเป้าไปที่นักลงทุนที่ได้รับคำแนะนำที่ผิด มิจฉาชีพมักจะสัญญาที่จะให้ความช่วยเหลือในการกู้คืนเงินที่สูญเสียไปโดยจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียม แต่คุณอย่าได้หลงเชื่อเชียวล่ะ ให้คุณเริ่มดำเนินคดีทางกฎหมายไปเลย

FBS เป็นโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้ และได้รับการกำกับดูแลโดย FSC (เบลีซ) เริ่มต้นการซื้อขายอย่างปลอดภัยและมั่นคงกับเรา

คำถามที่พบบ่อย

1200х675-4.png

การเทรดฟอเร็กซ์ถูกกฎหมายหรือไม่?

แม้จะมีความเข้าใจผิดอยู่มาก แต่การเทรดฟอเร็กซ์ก็เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายโดยสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม คุณควรระวังมิจฉาชีพและการฉ้อโกงที่อาจเกิดขึ้น ระวังสัญญาณเตือนภัยและระมัดระวังในการเลือกโบรกเกอร์ หากคุณเพิ่งเริ่มต้น ควรเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลจำเพาะของตลาด ลองใช้บัญชีทดลองก่อน และเรียนรู้วิธีแยกแยะโบรกเกอร์ที่ซื่อสัตย์ออกจากโบรกเกอร์ที่หลอกลวง

ฉันมีเงินพอที่จะเริ่มต้นเทรดฟอเร็กซ์ไหม?

เงินจำนวนเท่าไหร่ก็ได้ เงินเพียง $5 ในบัญชีของคุณก็สามารถสร้างกำไรให้กับคุณได้

สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือประสบการณ์ ทักษะในการวิเคราะห์ และความกล้าที่จะรับความเสี่ยงที่คำนวณมาแล้ว โปรดจำไว้ว่าแม้แต่เทรดเดอร์ที่ช่ำชองก็สามารถทำผิดพลาดได้เนื่องจากความผันผวนของตลาดฟอเร็กซ์และปัจจัยที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา

คุณสามารถใช้เลเวอเรจได้หากคุณไม่มีเงินทุนเพียงพอ อย่างไรก็ตาม มันอาจมีความเสี่ยงและนำไปสู่การสูญเสียที่ไม่คาดคิดได้ คุณควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียทั้งหมดอย่างรอบคอบก่อนใช้ตราสารนี้

ตลาดฟอเร็กซ์มีความผันผวนไหม?

ตลาดฟอเร็กซ์มักจะมีความผันผวนอย่างมาก ราคาของสกุลเงินสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและบางทีก็ไม่สามารถคาดเดาได้ ปัจจัยหลายประการมีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยน ได้แก่ เศรษฐกิจโลก เหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ และอารมณ์ตลาด ความผันผวนนี้เป็นปัจจัยเสี่ยง แต่เทรดเดอร์จำนวนมากมองว่าเป็นโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในตลาดฟอเร็กซ์มีความจำเป็นต่อการประเมินความเสี่ยงและปกป้องเงินของคุณ

ตลาดฟอเร็กซ์ได้รับการกำกับดูแลหรือไม่?

ตลาดฟอเร็กซ์ได้รับการกำกับดูแล แต่ระดับของการกำกับดูแลจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ มีหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินในบางประเทศและภูมิภาคที่ดูแลการซื้อขายฟอเร็กซ์ พวกเขาจะทำให้แน่ใจว่าตลาดมีความโปร่งใส ป้องกันการฉ้อโกง และปกป้องผู้ซื้อขาย CFTC และ NFA มีการดำเนินการในสหรัฐอเมริกา ส่วนในสหภาพยุโรป มีหลายประเทศที่ปฏิบัติตามมาตรฐานทั่วไปที่กำหนดโดยหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งยุโรป แต่ในแต่ละประเทศก็จะมีหน่วยงานกำกับดูแลของตนเอง

แม้ว่าหน่วยงานกำกับดูแลจะช่วยรักษาความเป็นธรรมของการดำเนินการในตลาด แต่ตลาดฟอเร็กซ์ก็ไม่มีการกระจายอำนาจ นักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกทำการซื้อขาย FX นั่นหมายความว่าไม่ใช่โบรกเกอร์ทุกรายที่จะได้รับการกำกับดูแล ดังนั้นให้เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตเพื่อหลีกเลี่ยงการหลอกลวงและการฉ้อโกง

พร้อมที่จะเริ่มซื้อขายแล้วหรือยัง? ฟอเร็กซ์กลายเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายได้กับ FBS มาเริ่มทำเงินกันตอนนี้เลย!

แบ่งปันกับเพื่อน ๆ:

เปิดบัญชี FBS

โดยการลงทะเบียน คุณได้ยอมรับเงื่อนไขของ ข้อตกลงลูกค้า FBS และ นโยบายความเป็นส่วนตัว FBS และยอมรับความเสี่ยงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการซื้อขายในตลาดการเงินระดับโลก

FBS ณ สื่อสังคมออนไลน์

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon

ติดต่อเรา

iconhover iconiconhover iconiconhover iconiconhover icon
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
App Store
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
Google Play

การซื้อขาย

บริษัท

เกี่ยวกับ FBS

เอกสารทางกฎหมาย

ข่าวเกี่ยวกับบริษัท

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้

ศูนย์ช่วยเหลือ

โปรแกรมพันธมิตร

เว็บไซต์นี้ดำเนินการโดย FBS Markets Inc. หมายเลขจดทะเบียน 000001317 ซึ่ง FBS Markets Inc. ได้รับการจดทะเบียนโดย Financial Services Commission ภายใต้พระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ฯ 2021 (Securities Industry Act 2021) ใบอนุญาตเลขที่ 000102/31 ที่อยู่สำนักงาน: 9725, Fabers Road Extension, Unit 1, Belize City, Belize

โดย FBS Markets Inc. ไม่ได้ให้บริการทางการเงินแก่ผู้อยู่อาศัยในเขตอำนาจศาลบางแห่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร, อิสราเอล, สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน, เมียนมาร์

ธุรกรรมการชำระเงินได้รับการจัดการโดย HDC Technologies Ltd.; Registration No. HE 370778; Legal address: Arch. Makariou III & Vyronos, P. Lordos Center, Block B, Office 203, Limassol, Cyprus ที่อยู่เพิ่มเติม: Office 267, Irene Court, Corner Rigenas and 28th October street, Agia Triada, 3035, Limassol, Cyprus

เบอร์ติดต่อ: +357 22 010970 เบอร์ติดต่อเพิ่มเติม: +501 611 0594

สำหรับความร่วมมือ กรุณาติดต่อเราผ่าน [email protected]

คำเตือนเรื่องความเสี่ยง: ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขาย คุณควรเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาดสกุลเงินและการซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้นอย่างถ่องแท้ และคุณควรตระหนักถึงระดับประสบการณ์ของตนเอง

การคัดลอก การทำสำเนา การเผยแพร่ รวมถึงแหล่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของเนื้อหาใดๆ จากเว็บไซต์นี้สามารถดำเนินการได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุญาตที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การชี้แนะ หรือการชักชวนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น