ภาพรวมตลาด
แม้จะมีสัญญาณบวกในบางภาคส่วน แต่แรงส่งจากเศรษฐกิจเยอรมนียังดูไม่เพียงพอที่จะผลักดันดัชนี DAX (DE30) ให้กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นอย่างยั่งยืน ภาพรวมของปัจจัยพื้นฐานยังคงสะท้อนถึงความอ่อนแรงเชิงโครงสร้าง ขณะที่มาตรการกระตุ้นทางการคลัง แม้จะมีขนาดใหญ่และได้รับการประกาศออกมาแล้วหลายรอบ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติก็ยังคงไม่แน่นอนมากนัก ด้านข้อมูลเงินเฟ้อ ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และสะท้อนว่าแรงกดดันด้านราคายังคงชะลอลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยนี้ได้จุดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเมษายน แม้จะเป็นข่าวดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็สะท้อนถึงสภาวะเปราะบางของเศรษฐกิจยูโรโซน ที่ธนาคารกลางต้องกลับมาใช้นโยบายผ่อนคลายอีกครั้ง ทั้งที่การฟื้นตัวยังไม่ปรากฏชัด
เมื่อหันมาดูภาคการเติบโต พบว่าเศรษฐกิจเยอรมนียังคงติดหล่มอยู่ในภาวะชะงักงัน โดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Ifo ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ของเยอรมนีในปี 2025 ลงเหลือเพียง 0.2% จากเดิมที่ 0.4% สะท้อนความกังวลต่อทิศทางการฟื้นตัวในระยะกลาง นอกจากนี้ ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความพร้อมของภาคธุรกิจในการลงทุน แม้ว่ารัฐบาลจะมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าหลายแสนล้านยูโรรออยู่ก็ตาม ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความไม่มั่นใจเชิงโครงสร้างในระบบเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ ขณะเดียวกัน ดัชนี DAX ซึ่งมีน้ำหนักมากในกลุ่มอุตสาหกรรมและผู้ส่งออกระดับโลก ก็เผชิญแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการค้า โดยเฉพาะในความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มจะบังคับใช้ภาษีนำเข้าสูงถึง 25% และอาจนำไปสู่การตอบโต้จากสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่อาจส่งผลลบทั้งต่อภาคการผลิต ต้นทุน และความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกเยอรมันในระยะยาว
ในภาพรวมระดับโลก เยอรมนียังเผชิญการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างด้านการค้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยล่าสุดสหรัฐฯ ได้แซงหน้าจีนขึ้นมาเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ซึ่งแม้จะดูเป็นบวกในเชิงปริมาณ แต่ในเชิงคุณภาพกลับแฝงความเสี่ยงที่สูงขึ้น หากความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศเข้าสู่ภาวะตึงเครียด และถูกปิดล้อมด้วยกำแพงภาษีที่สูงขึ้น ย่อมส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะกับดัชนี DAX ที่มีโครงสร้างอิงกับกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และแบรนด์ส่งออกระดับโลก การปรับฐานของดัชนีจึงยังคงมีความเป็นไปได้สูง หากยังไม่ปรากฏแรงกระตุ้นใหม่ที่มีน้ำหนักเพียงพอในการเปลี่ยนทิศทางของเศรษฐกิจในภาพรวม
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
DE30
ดัชนี DAX (DE30) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง (H4) กำลังแสดงสัญญาณที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม โดยหลังจากที่ราคาสามารถทะลุกรอบการเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ที่แสดงไว้ในกรอบสีแดงลงมาได้อย่างเด็ดขาด โมเมนตัมของตลาดก็ได้พลิกกลับเข้าสู่ทิศทางขาลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยแรงขายล่าสุดยังคงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาหลุดผ่านแนวรับสำคัญลงมาได้อย่างชัดเจน เมื่อพิจารณาจากมุมมองทางเทคนิค จะพบว่า RSI ล่าสุดลดลงมาอยู่ที่ระดับ 24.35 ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะ Oversold และแสดงให้เห็นถึงแรงขายที่ยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่สัญญาณจาก MACD ยังคงสนับสนุนแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน โดยเส้น MACD ยังคงอยู่ต่ำกว่าเส้นสัญญาณ และแท่งฮิสโตแกรมก็ยังคงขยายตัวในแดนลบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนว่าโมเมนตัมของฝั่งขายยังไม่หมดไปง่ายๆ ทั้งนี้ แนวรับที่ควรจับตาในระยะสั้นจะอยู่ที่ระดับ 21,571.46 จุด ซึ่งเป็นบริเวณที่เคยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในอดีต และอาจมีโอกาสช่วยพยุงราคาไว้ได้ชั่วคราว ขณะที่แนวต้านสำคัญยังคงอยู่ที่บริเวณ 23,671.50 จุด ซึ่งหากราคาสามารถฟื้นตัวและกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ ก็อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของการเปลี่ยนแนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นในระยะสั้น
DE30,H4
