ภาพรวมตลาด
ในอดีต Apple มักถูกมองว่าเป็นหนึ่งในหลุมหลบภัย สำหรับนักลงทุนในช่วงที่ตลาดเกิดความผันผวน อย่างไรก็ตาม สัญญาณล่าสุดเริ่มสะท้อนว่า สถานะดังกล่าวอาจไม่มั่นคงเหมือนที่ผ่านมา ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงแล้วกว่า 10 กว่าเปอร์เซนต์ นับตั้งแต่ต้นปี Apple กำลังเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน และแนวโน้มการเติบโตของรายได้ที่ชะลอลง โดยเฉพาะนโยบายภาษีนำเข้าภายใต้รัฐบาลทรัมป์ที่เตรียมเรียกเก็บอัตราใหม่ถึง 20% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อ Apple ที่ยังคงพึ่งพาทั้งฐานการผลิตและยอดขายจากประเทศจีน โดยเฉพาะเมื่อจีนยังคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 17% ของรายได้รวมในปีที่ผ่านมา
แม้ Apple จะพยายามรีแบรนด์ตัวเองในฐานะผู้นำเทคโนโลยี AI ผ่านฟีเจอร์ใหม่อย่าง Apple Intelligence และการอัปเกรด Siri เวอร์ชัน AI สำหรับ iPhone 16 แต่กระแสตอบรับกลับไม่ร้อนแรงอย่างที่คาดไว้ ความคาดหวังของตลาดที่เคยพุ่งสูงจึงเริ่มลดลง โดยเฉพาะเมื่อการเปิดตัว Siri รุ่นใหม่ถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดในหลายภูมิภาค ขณะเดียวกัน รายได้โดยรวมในไตรมาสล่าสุดก็เติบโตเพียง 4% ขณะที่ยอดขาย iPhone ซึ่งยังเป็นเสาหลักของรายได้บริษัท กลับลดลงถึง 8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยเหล่านี้เริ่มทำให้นักลงทุนตั้งคำถามต่อความสามารถของ Apple ในการรักษาการเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในบริบทที่อุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนเริ่มถึงจุดอิ่มตัว และนวัตกรรมใหม่ยังไม่สามารถกระตุ้นอุปสงค์ได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ Apple ยังเผชิญแรงเสียดทานเชิงยุทธศาสตร์จากภายนอก โดยเฉพาะกรณีความขัดแย้งกับ SpaceX ของ Elon Musk ในเรื่องเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านดาวเทียม ซึ่งถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของอุปกรณ์พกพายุคใหม่ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น คลื่นความถี่และเครือข่ายสัญญาณดาวเทียม อาจทำให้ต้นทุนของ Apple เพิ่มขึ้น หากไม่สามารถรักษาความสัมพันธ์กับผู้ให้บริการรายสำคัญได้ในระยะยาว และในที่สุดก็อาจกระทบต่อแผนการขยายตัวของบริษัทในตลาดอุปกรณ์ไร้สัญญาณที่กำลังกลายเป็นสมรภูมิสำคัญของเทคโนโลยีโลกในทศวรรษหน้า
การวิเคราะห์ทางเทคนิค
APPLE
หุ้น Apple Inc. (AAPL) ในกรอบเวลา 4 ชั่วโมง (H4) ขณะนี้กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในแนวโน้มขาลงอย่างค่อนข้างชัดเจน หลังจากที่ราคาพยายามปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณกรอบราคาสีแดง แต่ไม่สามารถฝ่าแนวดังกล่าวขึ้นไปได้สำเร็จ จึงเกิดแรงขายกดดันกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยภาพรวมทางเทคนิคยังคงสะท้อนว่าแนวโน้มขาลงกำลังกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ และมีโอกาสดำเนินต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง เมื่อพิจารณาค่า RSI ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 50.93 ซึ่งแม้จะอยู่ในโซนกลางและสะท้อนถึงแรงซื้อแรงขายที่ยังคงทรงตัวใกล้เคียงกัน แต่ด้วยราคาที่ยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญในกรอบสีแดงขึ้นไปได้ ทำให้ฝั่งแรงขายยังคงมีน้ำหนักเหนือกว่าในช่วงนี้ ขณะเดียวกัน สัญญาณจาก MACD ก็เริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรง โดยแท่งฮิสโตแกรมเริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้ง ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของโมเมนตัมในทิศทางบวกและเปิดโอกาสให้แรงขายกลับมาเป็นฝ่ายครองตลาดอีกครั้งในระยะสั้น ทั้งนี้ นักลงทุนควรจับตาระดับแนวรับสำคัญที่บริเวณ 210.87 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดที่เคยมีแรงซื้อกลับเข้ามาในอดีต และอาจมีบทบาทในการพยุงราคาอีกครั้ง หากราคาหลุดต่ำกว่าระดับดังกล่าว จะเป็นการยืนยันโมเมนตัมขาลงที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และอาจนำไปสู่การปรับตัวลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากราคาสามารถดีดตัวขึ้นและทะลุแนวต้านบริเวณ 226.32 ดอลลาร์ได้อย่างแข็งแกร่ง จะถือเป็นสัญญาณเชิงบวกที่ช่วยเสริมความเชื่อมั่นต่อการกลับตัวขึ้นของราคาหุ้นในภาพระยะสั้น
APPLE,H4